• Welcome to ลงประกาศฟรี โปรโมทเว็บ SEO SMF PBN.
 


ประเภทการสกรีนเสื้อมีอะไรบ้าง ? คำตอบจาก HOSHI Kaizen

Started by deam205, Aug 10, 2025, 07:09 PM

Previous topic - Next topic

deam205


เวลาที่เราพูดถึง งานสกรีนเสื้อ หลายคนมักจะคิดถึงเพียง การปริ้นลายแล้วรีดลงบนเสื้อ แต่จริง ๆ แล้ว โลกของการสกรีนเสื้อ มันกว้างกว่านั้นเยอะมาก และมีวิธีการหลากหลายให้เลือก แล้วแต่ว่า งานต้องการรูปแบบไหน ใช้กับผ้าอะไร อยากได้ความทนทานขนาดไหน รวมทั้ง ความรู้สึกตอนสัมผัส แพทเทิร์นบนผ้า ก็มีผลเช่นกัน คนที่เพิ่งเริ่มสนใจก็มักจะสงสัยว่า "สกรีนเสื้อมีกี่แบบ" กันแน่ บางคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า "สกรีนจม" หรือบางที "สกรีนลอย" แต่ยังไม่ทราบความแตกต่าง วันนี้ ผมจะเล่าให้ฟังแบบยาว ๆ ครบถ้วนตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน เพื่อให้คุณเลือกเทคนิคที่เหมาะกับงานของคุณได้อย่างมั่นใจ.



เปิดด้วย คำถามยอดฮิต ก่อนเลยว่า "สกรีนเสื้อมีกี่แบบ" เอาจริง ๆ แล้ว ถ้านับรวมทุกเทคนิคในปัจจุบัน ก็มีไม่น้อยเลย แต่ถ้าโฟกัสที่ประเภทหลักที่นิยมกัน ก็จะมี ซิลค์สกรีน (Silk Screen), เทคนิคฮีตทรานเฟอร์, ซับลิเมชัน (Sublimation), การพิมพ์ DTG, การพิมพ์ DTF, เทคนิคเฟล็กซ์ และยังมี เทคนิคย่อยอื่น ๆ เช่น พัฟสกรีน, ปั๊มนูน, ฟอยล์ ฯลฯ โดยแต่ละแบบมี ลักษณะงาน, ความทนทาน, ต้นทุน และข้อดีข้อเสีย ไม่เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น การพิมพ์ซิลค์สกรีนเหมาะสำหรับงานล็อตใหญ่ เพราะราคาต่อชิ้นถูกและสีคงทน แต่มีข้อแม้ว่าต้องทำบล็อกก่อน ในขณะที่ DTG จะพิมพ์ตรงลงบนผ้า เหมาะกับงานความละเอียดสูงและจำนวนชิ้นไม่เยอะ เนื่องจากไม่จำเป็นต้องทำบล็อก สามารถพิมพ์ได้ทันทีจากไฟล์ DTF เป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะพิมพ์ลงฟิล์มแล้วรีดกับผ้าได้หลายชนิด สีสดและทนดีมาก



ต่อไปคือเรื่องที่หลายคนยังสับสน "สกรีนจม คือ อะไร" สกรีนจม หมายถึง วิธีการพิมพ์หรือสกรีนที่ทำให้เนื้อหมึกซึมเข้าไปในเส้นใยผ้า เมื่อสัมผัสผิวผ้าจะรู้สึกเรียบ ราวกับไม่มีลายอยู่ด้านบน ตัวอย่างเช่น ซับลิเมชันบนผ้าโพลีเอสเตอร์ หรือซิลค์สกรีนที่ใช้หมึกบางประเภท โดยหมึกจะซึมเข้าเนื้อผ้า พอซักก็ยังอยู่เหมือนเดิม เพราะไม่หลุดลอกได้ง่าย ใส่แล้วรู้สึกสบาย เพราะไม่มีชั้นหมึกนูนขึ้นมา ข้อดีคือทนต่อการซักมาก สีไม่หลุดง่าย และเหมาะกับงานที่ต้องการความคงทนในระยะยาว




ในทางตรงกันข้าม "สกรีนลอย คือ" เทคนิคสกรีนที่ทำให้หมึกหรือลวดลายคงอยู่บนพื้นผิวผ้า จนมองเห็นได้ว่าเกิดความนูน ลูบแล้วสัมผัสได้ถึงความต่างระดับ อย่างเช่นหมึกพัฟ (Puff Ink) ซึ่งเมื่ออบแล้วหมึกจะฟูขึ้นมานุ่มนวล หรือเทคนิคเฟล็กซ์ ที่เป็นแผ่นฟิล์มตัดตามแบบแล้วรีดติดบนผ้า จุดแข็งของสกรีนลอยคือ ลายชัดเจน สีสด และยังสามารถเพิ่มลูกเล่นได้ อย่างความเงา, ความนูน หรือผิวสัมผัสแบบมีเท็กซ์เจอร์ อย่างไรก็ตามข้อเสียคือ หากดูแลไม่เหมาะสมหรือซักแรงเกินไป อาจทำให้หมึกแตกลอกง่ายกว่าแบบสกรีนจม



การเลือกว่าจะใช้สกรีนจมหรือสกรีนลอย ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของงาน ถ้าต้องการเสื้อที่ใส่แล้วสบาย ลายไม่รบกวนสัมผัสผิว และทนซักในระยะยาว สกรีนจมก็เป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าอยากได้งานที่ดูโดดเด่น มีความพิเศษ พร้อมโชว์ลายเด่นชัด สกรีนลอยก็น่าสนใจมาก ปัจจุบันยังนิยมผสมผสานทั้งสองแบบ บนเสื้อตัวเดียว เพื่อให้ได้ทั้งความทนและความสวย

จากประสบการณ์ของผม ลูกค้าหลายคนที่มาทำเสื้อกับร้านสกรีน มักไม่รู้ว่ามีตัวเลือกเยอะขนาดไหน เมื่อถามคำว่า สกรีนเสื้อมีกี่แบบ ก็มักได้รับคำตอบแบบกว้าง ๆ แต่ไม่รู้รายละเอียด ถ้าเรารู้เรื่องนี้ตั้งแต่แรก ก็จะทำให้คุยกับร้านได้ชัดเจนขึ้น เช่น ถ้าอยากทำเสื้อทีมฟุตบอลที่ต้องซักบ่อยและไม่อยากให้ลายลอก ก็อาจเลือกสกรีนจมโดยใช้หมึกซึมเส้นใย แต่ถ้าอยากทำเสื้อแฟชั่นที่เน้นลายเด่น ก็ใช้เทคนิคสกรีนลอย หรือใช้เฟล็กซ์แบบเงาเพิ่มลูกเล่น

ผมเคยเจองานเสื้อยืดพรีเมียม ที่ใช้การซิลค์สกรีนหมึกน้ำจนซึมลงผ้าฝ้าย จนกลายเป็นสกรีนจมเนียนมาก หลังซักก็ไม่ซีด และยังคงใส่สบายเพราะผ้ายังระบายอากาศได้ดี ในด้านแฟชั่นสตรีทหลายแบรนด์นิยมหมึกพัฟหรือเฟล็กซ์ เพื่อให้ได้ลายสกรีนลอยที่มีมิติ เวลามองหรือจับจะรู้สึกว่ามันพิเศษกว่าเสื้อพิมพ์ธรรมดา

อีกอย่างที่หลายคนไม่รู้คือ สกรีนจมกับสกรีนลอยไม่ใช่เทคนิคตายตัวที่เลือกได้แค่แบบเดียว บางครั้งช่างสกรีนสามารถปรับสูตรหมึกหรือขั้นตอนการพิมพ์ เพื่อให้ได้สกรีนกึ่งจมกึ่งลอย เช่น ใช้หมึกซึมเข้าเนื้อบางส่วน แต่ยังเหลือชั้นบาง ๆ บนผิวให้เห็นนูนเล็กน้อย ทำให้มีทั้งความคงทนและความรู้สึกต่างเวลาสัมผัส

ถ้าลองมองในมุมการใช้งานจริง การทราบว่าสกรีนเสื้อมีกี่แบบ สามารถช่วยให้ประเมินราคาได้อย่างแม่นยำ เพราะแต่ละเทคนิคมีต้นทุนต่างกัน เช่น ซิลค์สกรีนถ้าทำเยอะ ๆ จะถูกมาก แต่ถ้าทำแค่ไม่กี่ตัว DTG หรือ DTF อาจจะคุ้มกว่าเพราะไม่ต้องทำบล็อก สกรีนลอยบางแบบก็ต้องใช้เครื่องตัดเฟล็กซ์และเครื่องรีดความร้อนที่มีคุณภาพ เพื่อให้ฟิล์มติดแน่นและไม่ลอกง่าย ขณะที่สกรีนจมบางแบบต้องใช้เครื่องอบและหมึกพิเศษราคาแพงกว่า

ในฐานะคนที่ชอบเสื้อสกรีนและเคยทำทั้งเพื่อใส่เองและขาย ผมคิดว่าการรู้พื้นฐานพวกนี้มีความสำคัญมาก ถ้ารู้ว่าสกรีนจม คือ อะไร สกรีนลอย คือ อะไร และสกรีนเสื้อมีกี่แบบ จะทำให้สั่งงานได้แม่นตรงตามต้องการ โดยไม่รู้สึกผิดหวังหลังงานเสร็จ โดยเฉพาะถ้าเจอร้านที่อธิบายและให้คำแนะนำอย่างตรงไปตรงมา พร้อมอธิบายข้อดีข้อเสียของแต่ละเทคนิคชัดเจน เราก็จะได้งานที่ลงตัวทั้งคุณภาพ ความสวย และงบ

ในความเป็นจริง การเลือกเทคนิคสกรีนก็เหมือนกับเลือกวัตถุดิบทำอาหาร ถ้าเราเลือกถูกตั้งแต่แรก ผลลัพธ์ก็จะออกมาดีและใช้งานได้ตรงใจ เสื้อสกรีนที่ดีไม่ใช่แค่สวยตอนใหม่ แต่ต้องสวยและทนทานไปนาน เพราะการรู้ความต่างของสกรีนจมกับสกรีนลอยคือความรู้พื้นฐานที่ทุกคนควรมี

ข้อมูลติดต่อร้าน HOSHI KAIZEN
เบอร์โทรศัพท์: 098‑384‑5455
(ช่วงเวลาทำการ: 09:00 – 23:00 น. ทุกวัน)
LINE Official: @ho‑shi
เว็บไซต์ : www.ho-shi.com
(สามารถติดต่อเพื่อขอใบเสนอราคา หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ตลอดเวลา)
อีเมล: [email protected]

Prichas

งานสกรีนเสื้อมีแบบไหนบ้าง ? คำตอบจาก ร้านสกรีนโฮชิ

Cindy700

สกรีนเสื้อมีกี่แบบ ? คำตอบจาก ร้านสกรีนโฮชิ

Naprapats

ประเภทการสกรีนเสื้อมีอะไรบ้าง ? คำตอบจาก ร้านสกรีนโฮชิ

Naprapats

สกรีนเสื้อมีกี่แบบ ? คำตอบจาก HOSHI Kaizen

Beer625

สกรีนเสื้อมีกี่แบบ ? คำตอบจาก โฮชิ สกรีนเสื้อคุณภาพ

Prichas

สกรีนเสื้อมีกี่แบบ ? คำตอบจาก โฮชิ สกรีนเสื้อคุณภาพ